วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

ยาแก้กลุ้ม (ตอนสุดท้าย)

สิ่งที่เรียกกันว่า "โชคร้าย"
ไม่ได้มีมาทุกวัน
ขอเพียงตั้งสติให้มั่น
มีจิตใจที่เข้มแข็ง
"โชคร้าย" ก็จะจากไปอย่างรวดเร็ว
และสิ่งที่เรียกว่า "โชคดี"
จะเข้ามาแทนที่


ถ้าตั้งใจว่า "ทำได้"
แม้หินหนักยังยกไหว
ถ้าคิดว่า "ทำไม่ได้"
แม้เม็ดทรายหนึ่งกำมือ
ก็ยังยกยาก


ลองสังเกตุ
ชีวิตของคนที่ขัดสนลำบาก
มักมากจาก
ชีวิตที่ขาดความอดทน


คนมีปัญญา
รู้จักทำใจให้เป็นสุขได้
แม้ในเรื่องที่ไม่น่าจะสุข
คนโง่
สามารถทำใจให้เป็นทุกข์ได้
แม้ในเรื่องที่ไม่น่าจะทุกข์


เป็นสุขง่าย เป็นทุกข์ยาก
เห็นเขาสุข พลอยสุขด้วย
เห็นเขาทุกข์ คิดช่วยเหลือ
เมื่อได้ลาภ ได้ยศ ได้สรรเสริญ หรือได้สุข
จิตใจไม่ฟูจนเกินไป
เมื่อเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา หรือได้ทุกข์
จิตใจไม่แฟบห่อเหี่ยวจนเกินไป
นี่คือจิตใจของคนที่พัฒนาแล้ว


การกินเมื่อหิว
เป็นความต้องการของร่างกาย
การกินเมื่ออยาก
เป็นความต้องการของกิเลส
เราต้องเลือกเอาเอง
จะกินเพื่อร่างกายหรือกินเพื่อกิเลส


คาถาที่ควรมีไว้ประจำใจ
เมื่อจะซื้อของกินของใช้
ให้ท่องคาถาว่า
" จำเป็นไหม? จำเป็นไหม?"


ถึงจะรู้ร้อยเรื่องพันเรื่อง
ก็ไม่สู้รู้เรื่องดับทุกข์
ถึงจะทำได้ร้อยอย่างพันอย่าง
ก็ไม่สู้รู้จักทำใจ


การที่ถูกเขาโกงบ้าง
ถูกเขาใส่ร้ายบ้าง
ถูกเขากลั่นแกล้งบ้าง
ควรคิดว่าดีเหมือนกัน
ชีวิตจะได้ไม่เซ็ง
เป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่ง
ที่ไม่ต้องลงทุนไปดูการแสดง
หรือไปดูการแข่งขันกีฬา


ทำงานเพราะ "ต้อง" ทำงาน
กับ ทำงานเพราะ "รัก" งาน
ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน
และให้ผลงานที่ต่างกันด้วย


ถ้าก้าวพลาดไปหนึ่งก้าวจะเป็นไร
เพราะยังมีก้าวใหม่ที่มั่นคง


ถ้าขาดความพยายามแล้ว
อย่าว่าแต่เข็นครกขึ้นภูเขาเลย
แม้จะเข็นครกลงภูเขาก็ไม่มีทางทำได้


เขาด่าว่าไม่กี่คำ ทนไม่ได้
แต่นำเรื่องที่เขาด่าว่า
ไปขึ้นโรงขึ้นศาลหลายปี ทนได้
บางทีไปทำร้ายเขา ฆ่าเขา
จนต้องติดคุกหลายปี ทนได้
นี่คือ...
เรื่องแปลกแต่จริงของมนุษย์


โลกสว่างด้วยแสงไฟ ใจสว่างด้วยแสงธรรม


บ่นแล้วหมดปัญหาก็น่าบ่น บ่นแล้วยังมีปัญหาไม่รู้จะบ่นหาอะไร?


การขอที่ไม่ต้องละอาย
คือ การขอโทษ
การให้ที่ไม่ต้องออกอะไรเลย
คือ การให้อภัย


แสงธรรมส่องใจ แสงไฟส่องทาง


อย่าสัญญาอะไรกับใครง่ายๆ
ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ตามสัญญา
สัญญาแล้วไม่ทำตามสัญญา
เหมือวาจาเด็กทารก
เพียงส่งเสียงออกมา
แต่หาสาระและความหมายไม่ได้
ทั้งยังทำลายเกียรติภูมิของตนเองด้วย


เมื่อเกิดเป็นคน
ต้องอยู่ร่วมกับคน
จึงกระทบกระทั่งกับคนบ้าง
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคน


*ธรรมะมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ผู้ที่เข้าถึงธรรมะ ก็เป็นผู้เข้าใจตนเอง
เมื่อใดที่เราเห็นธรรมะ เมื่อใดที่เราเห็นถูก
เมื่อนั้น... เราก็จะมีแต่ความปลอดโปร่ง
จะมีแต่ความเป็นอิสระตลอดเวลา
ดังพระพุทธองค์ ตรัสว่า...
" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านอย่ายึดมั่นในธรรม"
ธรรมะคืออะไร ? ...
คือทุกสิ่ง ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ธรรมะ
ความรัก... ความเกลียด ก็เป็นธรรมะ
ความสุข... ความทุกข์ ก็เป็นธรรมะ
ความชอบ... ความไม่ชอบ ก็เป็นธรรมะ
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยสักเพียงไหน
สิ่งเหล่านั้น... ก็ล้วนแล้วแต่เป็นธรรมะทั้งนั้น


* การฝึกใจ
ใจของเรานี่มันอยู่ในกรง
ยิ่งกว่านั้น...
มันยังมีเสืออาละวาดอยู่ในกรงด้วย
เพราะฉะนั้น เราจะต้องอบรมใจ...
ด้วยการปฏิบัติภาวนา ด้วยการเจริญสมาธิ
นี่แหละ... เราเรียกว่า "การฝึกใจ"
ใจที่ยังไม่ได้ฝึก...
มันก็คอยวิ่งไปตามนิสัยความเคยชิน
ใจที่ยังไม่ได้อบรมฐ...มันก็เต้นไปตามเรื่อง
เต้นไปตามความคะนอง...เพราะยังไม่เคยถูกฝึก
ดังนั้น... จงหมั่นฝึกใจของตัวเองไว้ให้ดี


เราอยากเห็นความสวัสดี มีอยู่ในคนไทยทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น